ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการ Flop Set เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในเกมโป๊กเกอร์ออนไลน์ อย่างไรก็ดีวิธีที่เล่นคุณเวลาติด Set ก็ถือว่าสำคัญมากไม่แพ้กันต่อกำไรที่คุณจะได้ ในบทความนี้เราจะมาดูกันถึง 3 เทคนิคที่จะทำได้คุณเล่น Set ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
1. ให้ความสำคัญกับ Flop Texture ให้มาก
Board Texture เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการที่คุณจะพิจารณาว่าคุณควรจะเล่น Set ยังไง เดี๋ยวเรามาดูกันไปทีละบอร์ดกันเลย
Dry Board
เป็นบอร์ดที่มี Draw น้อยมากๆ มักเป็นการ์ดที่ไม่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น K72 บอร์ดแบบนี้คุณสามารถ Slow Play Set ได้ เพราะคุณไม่ต้องกลัวเลยว่าเขาจะมี Draw อะไรมาแซงคุณ Check ล่อให้เขา Bet ออกมาด้วยตัวเองได้เลย จะเช็คคอลหรือเช็คเรส สามารถทำได้หมดเลย
Wet Board
เป็นบอร์ดที่เริ่มมี Draw มากขึ้น เช่น 9♣6♣4♥ flush draw บอร์ดแบบนี้คุณควรจะรีบเล่นให้ดุดันมากขึ้น รีบลงเงินใน Pot ให้ Draw ทั้งหลายจำเป็นต้องจ่ายแพงๆเพื่อจะดรอว์มา เพราะบอร์ดลุ้นได้ทั้งสเตรทดรอว์และฟลัชดรอว์นั่นเอง บังคับให้เขาจ่ายคุณมาด่วนๆ อย่าให้เขาซื้อดรอว์ฟรีเด็ดขาด!
Soaking Wet Board
พูดภาษาชาวบ้านเข้าใจง่ายๆก็คือ บอร์ดที่มี Draw ได้หลายทางมากๆ เช่น 9♦8♦6♦ คุณควรจะเริ่มระวังตัวให้มากขึ้นเพราะคู่ต่อสู้อาจจะนำคุณไปแล้วก็ได้ บอร์ดแบบนี้ Set ของคุณถือเป็นแฮนด์กลางๆ ควรจะเล่นระวังตัวมากขึ้นหน่อย อาจจะผสมเช็คกับ Bet อย่างละครึ่งๆก็ได้
2. Bet Sizing คือกุญแจสำคัญ
การเลือกขนาด Bet Size ให้ถูกต้องนั้นสำคัญมาก คุณควรจะเลือก Size ที่สามารถได้ผลดี่ที่สุดในสถานการณ์นั้นๆกับ Range ของคุณ มาดูคำแนะนำง่ายๆกัน
Protection Bet
บน Dry Board จุดประสงค์การ Bet หลักๆใน Range ของคุณคือการไล่ Overcard เช่น K72 สมมติว่าคุณถือ 89s ซึ่งไม่ติดอะไรเลย จุดประสงค์ก็แค่ Bet ให้แฮนด์ที่สูงกว่าขึ้นแต่ยังไม่ติดอะไรหมอบไป เช่น 9Ts JQs อะไรแบบนั้นนั่นเอง เลยไม่จำเป็นต้อง Bet ใหญ่ Bet 25-40% พอ เช่นเดียวกับการที่คุณมี Set คุณก็ควรจะ Bet Size นี้เช่นกัน
Value Bet
บนบอร์ดที่น่ากลัว เช่น 9♣6♣4♥ คุณควรเลือก Bet Size ใหญ่ขึ้น เพื่อกันไม่ให้ดรอว์มาแซงคุณ บนบอร์ดที่อันตรายแบบนี้ คุณควรเลือก Size Bet ที่ใหญ่หน่อย เช่น 75-150% นั่นเอง
Pot Control
บนบอร์ดที่มี Straight หรือ Flush ไปแล้ว คุณควรระวังตัวให้มาก ควร Bet แค่ 25-50% พอ หรือจะเช็คคอลก็ได้ถ้าคุณไม่มีตำแหน่ง เพื่อที่จะ Control Pot ให้ไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะบ่อยครั้งที่ถ้าจบด้วยการออลอินคุณมักจะแพ้สเตรทหรือฟลัชนั่นเอง สู้เล่นเบาๆไปลุ้นฟูลเฮาส์จะดีกว่า
3. ดูแนวโน้มของคู่ต่อสู้ของคุณให้ดีๆ
เล่นกับผู้เล่น Aggressive หรือ Passive
ถ้าคุณเจอผู้เล่นที่ดุดัน คุณควร Slow Play Set ใส่เขา ล่อให้เขาบลัฟออกมาด้วยแฮนด์ที่แย่กว่าเรื่อยๆ เพราะเขามีแนวโน้มที่จะบลัฟสูง กลับกันถ้าเจอผู้เล่นที่ค่อนข้างเซฟ คุณควรเล่นตรงไปตรงมา มีก็ Bet ใส่เขาไปเลย อย่าหวังว่าเขาจะมาปั้น Pot ให้คุณ คุณควรปั้น Pot ด้วยตัวคุณเอง
เล่นกับ Calling Station หรือ Folding Station
ถ้าคุณเล่นกับระดับหัวจ่าย คุณไม่ต้องคิดอะไรเลย Bet Bet Bet ไปเลย ทำให้ Pot ใหญ่ที่สุด เพราะผู้เล่นประเภทนี้ยังไงก็คอลอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเล่นกับคนที่หมอบง่าย คุณอาจจะลองเลือก Size ให้เล็กลงหน่อย เพื่อให้เขา Call ง่ายขึ้น หรืออาจจะ Check บ้างบางสตรีทก็ได้
สรุปส่งท้าย เทคนิคการเล่น Set
การเล่น Set นั้นทำกำไรได้ไม่ยากเลยใน Cash Game แต่อย่าลืมเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น การทำความเข้าใจกับ Board Texture แต่ละประเภท การเลือกขนาด Bet Size ให้ดี และการดูแนวโน้มคู่ต่อสู้ให้ดี เพียงทำตาม 3 ข้อนี้ คุณจะยกระดับเกมของตัวเองและทำกำไรได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
อย่าลืมว่าการเล่นโป๊กเกอร์ให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องแค่ของการเล่นแต่แฮนด์ที่แข็งแกร่ง แต่ต้องเล่นแฮนด์พวกนั้นให้มีประสิทธิภาพ เล่นอย่างมีสติ และรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ นั่นจะทำให้คุณเล่นได้ดีที่สุดนั่นเอง